ควรรู้! วิธีดูแลพัดลมระบายความร้อน DC Cooling Fan
เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

ข้อควรรู้! ดูแลพัดลมระบายความร้อน DC Cooling Fan อย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

สำหรับงานผลิตทางด้านอุตสาหกรรมและเครื่องจักรต่าง ๆ ระบบระบายความร้อนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการใช้งานอย่างต่อเนื่องของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์เหล่านั้น มักจะก่อให้เกิดความร้อน อันเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดปัญหาต่อระบบภายในและเกิดความเสียหายขึ้นได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานที่สั้นลง การใช้ตัวช่วยระบายความร้อนของตัวเครื่องต่างๆ อย่างพัดลมระบายความร้อน จึงตอบโจทย์การแก้ปัญหานี้ได้ดี แต่การจะใช้งานพัดลมระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้งานได้อย่างยาวนาน การดูแลรักษาพัดลมระบายความร้อนนี้ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

พัดลมระบายความร้อนมีหลายประเภท มีความเหมาะสมกับการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งพัดลมระบายความร้อนที่จะมาพูดถึงกันนี้ คือ พัดลม DC หรือ DC Cooling Fan เป็นพัดลมระบายความร้อนอีกประเภทหนึ่งที่มีการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย เราจึงจะพามารู้จักและรู้ถึงข้อดีของพัดลมระบายความร้อนประเภทนี้ รวมทั้งมาบอกวิธีการดูแลที่เหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้นสำหรับ DC Cooling Fan

ความสำคัญของพัดลมระบายความร้อน

พัดลมระบายความร้อน ถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเครื่องจักร รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ นั่นเป็นเพราะในอุปกรณ์เหล่านั้น เมื่อมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และเป็นระยะเวลานานๆ จะก่อให้เกิดความร้อนสะสมขึ้นจากกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดการชำรุดเสียหายขึ้นได้ ระหว่างการทำงานของอุปกรณ์ภายใน พัดลมระบายความร้อนจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นระบบระบายความร้อน ที่ช่วยให้เครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถใช้งานได้ยาวนาน ลดความเสียหายของระบบภายในลงได้ ตัวอย่าง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ทุกตัวจะต้องมีพัดลมระบายความร้อน เพื่อป้องกันปัญหาอย่าง อาการเครื่องหน่วง ช้า กระตุก จากการใช้งานต่อเนื่องยาวนานจนเครื่องเกิดความร้อนนั่นเอง รวมถึงเครื่องจักร เครื่อง CNC ตู้เชื่อม ตู้ควบคุมงานระบบโซลาร์เซลส์ อินเวอร์เตอร์ เซอร์โวมอเตอร์ มอเตอร์ไดรฟ์ เป็นต้น

พัดลมระบายความร้อน DC Cooling Fan

DC Cooling Fan หรือ พัดลม DC ย่อมาจาก “Direct Current Fan” คือพัดลมระบายความร้อน ประเภทที่ทำงานด้วยค่าแรงดันไฟฟ้า (Voltage) ที่คงที่ตลอดเวลา โดยแหล่งพลังงานไฟฟ้าอาจมาจากการต่อตรงกับแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply Unit - PSU) หรืออาจมาจากการเชื่อมต่อเข้ากับ มาเธอร์บอร์ด (Motherboard) ก็ได้

การทำงานของพัดลมระบายความร้อนแบบ DC Cooling Fan จะทำงานด้วยการส่งกระแสไฟฟ้าเพียงเล็กน้อยเข้าสู่ขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วทำให้เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำ จึงเกิดเป็นแรงบิดที่แกนของมอเตอร์และทำให้ใบพัดลมหมุน โดยในส่วนของตัวมอเตอร์กระแสตรง คือมอเตอร์แบบ Brushless DC Motor หรือ เรียกอีกแบบว่า Synchronous DC Motor ซึ่งใช้หลักการของขั้วแม่เหล็กต่างขั้วในการผลักกัน เพื่อให้เกิดแรงบิดที่สามารถไปหมุนใบพัดของพัดลมให้หมุนได้ จากการทำงานร่วมกันระหว่างแม่เหล็กถาวรและขดลวดไฟฟ้า โดย DC Cooling Fan นี้ถือเป็นพัดลมระบายความร้อนที่ไม่สามารถใช้กับไฟบ้านในระดับ 220 โวลท์ได้โดยตรง แต่ก็สามารถใช้งานได้ด้วยการใช้อะแดปเตอร์หรือหม้อแปลง เพื่อทำการแปลงไฟก่อน แต่อย่างไรก็ดีพัดลมระบายความร้อนแบบ DC นั้นมีข้อดีที่เป็นจุดเด่นที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย ดังนี้

 - ช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัดลม DC Cooling Fan มักถูกเลือกเพื่อนำมาใช้ในการระบายความร้อนให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ รวมไปจนถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ เครื่อง CNC เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความร้อนสะสม ด้วยการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่น้อย และระบบการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ พัดลม DC จึงยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรนั้นๆ ให้ยาวนานขึ้นได้อีกด้วย
 - ใช้พลังงานน้อย พัดลม DC Cooling Fan เป็นพัดลมระบายความร้อนที่ใช้พลังงานน้อยกว่าแบบอื่นๆ อย่าง AC ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีคุณสมบัติที่ สามารถประหยัดไฟได้มากขึ้นอีกด้วย
 - ไร้เสียงรบกวน เป็นพัดลมระบายความร้อนที่ทำงานได้เงียบ มีเสียงเบา ไร้การรบกวนต่อการใช้งานและสภาพแวดล้อมรอบข้าง
 - อันตรายน้อยกว่า ด้วยการใช้แรงดันไฟฟ้าที่ต่ำ จึงมีอันตรายน้อยกว่าแบบอื่นๆ พัดลมระบายความร้อน DC จึงมักถูกนำมาใช้ในหลายๆ งานทางด้านอุตสาหกรรม เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อินเวอร์เตอร์ รถยนต์ รถบรรทุก รถโฟล์คลิฟท์ เครื่องจักร รวมไปถึงการใช้กับระบบโซลาร์เซลล์

วิธีการดูแลรักษาพัดลมระบายความร้อน DC Cooling Fan เพื่อยืดอายุการใช้งาน

แม้ว่าพัดลมระบายความร้อน DC จะเป็นตัวช่วยในการป้องกันการเกิดความร้อนสะสม เพื่อยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องจักรทางอุตสาหกรรมต่างๆ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ อย่างแล้ว สำหรับการใช้งานพัดลม DC Cooling Fan มีสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือ การดูแลรักษาพัดลมระบายความร้อน เพราะพัดลมระบายความร้อนประกอบไปด้วยตัวโครงพัดลม ใบพัด มอเตอร์ และส่วนอื่นๆ เพื่อให้คงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีอยู่เสมอ และยืดอายุการใช้งานของตัวพัดลมด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการใช้งานพัดลม DC ให้เหมาะสม ควรดูแลและบำรุงรักษาพัดลมระบายความร้อน DC อย่างถูกต้องอยู่เสมอ ด้วยวิธีเบื้องต้นง่าย ๆ ดังนี้

1. ใช้อุปกรณ์เสริมร่วมด้วยเมื่อมีการติดตั้งใช้งานพัดลมระบายความร้อน DC Cooling Fan ได้แก่
ตะแกรงพัดลม (Fan Guard) หรือตะแกรงกันนิ้ว สำหรับป้องกันอันตรายจากการหมุนของใบพัดที่อาจจะเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้ใช้งานและป้องกันอันตรายจากสิ่งของที่อาจจะเข้าไปติดขัดกับใบพัดลมทำให้เกิดแตกหักเสียหายได้ โดยเฉพาะพัดลมขนาดใหญ่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพัดลม DC ขนาด 6” SD173AP, SD175SAP, SD175EAP หรือขนาด 10” SD254AP เป็นต้น

ฟิลเตอร์พัดลม (Fan Filter , Plastic Filter Guard, Stainless Filter Guard) ติดไว้ที่ตัวพัดลมหรือติดกับตู้คอนโทรลก็ได้ ขึ้นอยู่กับทิศทางลมที่ใช้เป่าหรือดูดระบายความร้อน เพื่อป้องกันฝุ่นละออง เศษสิ่งสกปรก ละอองน้ำมัน ละอองน้ำ ไม่ให้เข้าไปทำให้พัดลม DC นั้นเสียหายได้ ซึ่งมีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ เช่น PFG-80 ฟิลเตอร์พลาสติกสำหรับพัดลม DC ขนาด 80มม.,PFG-92 ฟิลเตอร์พลาสติกสำหรับพัดลม DC ขนาด 92มม., PFG-12 ฟิลเตอร์พลาสติกสำหรับพัดลม DC ขนาด 120มม. หรือ MSG-12 ฟิลเตอร์สแตนเลสสำหรับพัดลม DC ขนาด 120มม.

2. หากท่านต้องมีการจัดเก็บพัดลม DC Cooling Fan ไว้เพื่อสต็อกใช้งาน เพื่อให้ทันท่วงทีต่อการเบิกใช้สำหรับเครื่องจักรหรือตู้คอนโทรลของท่านนั้น การเก็บรักษาพัดลมระบายความร้อน DC Cooling Fan ที่ถูกต้องก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่เป็นพื้นที่ที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไป พื้นที่จัดเก็บควรอยู่ในช่วงอุณหภูมิระหว่าง -20 ํ C ~ +75 ํ C ความชื้นที่ 75% RH เพื่อป้องกันไม่ให้มอเตอร์เกิดความชื้น และควรป้องกันไม่ให้เกิดการกระแทกระหว่างการจัดเก็บ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ รวมถึงบรรจุในกล่องมิดชิดเพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือปนเปื้อนกับสารเคมีหรือสิ่งเจือปนอื่น ๆ และแยกแรงดันไฟแต่ละประเภทให้ชัดเจนด้วย

3. ก่อนการใช้งาน จำเป็นจะต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า พัดลมระบายความร้อน DC สามารถทำงานได้ปกติ โดยอุปกรณ์จ่ายไฟจะต้องมีความจุที่เพียงพอ และมีแรงดันไฟฟ้าที่เสถียร ห้ามใช้กระแสไฟหรือแรงดันไฟที่ไม่ตรงกันระหว่างตัวพัดลมกับเครื่องจักรหรือตู้คอนโทรล ป้องกันการทำงานของระบบภายในที่จะทำงานไม่ประสานกัน โดยทั่วไปแล้ว DC Cooling Fan “SINWAN” ให้ค่าความคาดเคลื่อน/ค่าการยอมรับบวกลบอยู่ที่ประมาณ 10% สายไฟจะต้องเป็นสายไฟเฉพาะที่ใช้ได้กับตัวพัดลม DC เท่านั้น

4. หากระหว่างการทำงานของพัดลมระบายความร้อน DC มีเสียงที่ผิดปกติ มอเตอร์ร้อน กระแสไฟฟ้าผิดปกติ สวิตช์ขัดข้อง เปิดไม่ติด หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ที่ชัดเจน ควรปิดการทำงานของพัดลมลงทันที และทำการตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัย และไม่ควรทำการซ่อมแซมหรือแก้ไขอาการผิดปกติต่างๆ ระหว่างที่พัดลมระบายความร้อนกำลังทำงาน และเมื่อแก้ไขข้อขัดข้องเรียบร้อยแล้ว ควรจะต้องทำการทดสอบก่อนการใช้งานจริงอย่างน้อย 5 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นอีก

5. ควรดูแลความสะอาดพัดลมระบายความร้อนอยู่เสมอ ไม่ควรมีเศษสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น หรือเศษวัสดุอื่นๆ อยู่ภายในช่องอากาศที่เข้าออกและท่อของพัดลม DC เพราะสิ่งสกปรกเหล่านี้ จะเข้าไปทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนจากอุปกรณ์และเครื่องจักรลดลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่ออายุการใช้งาน

พัดลมระบายความร้อน DC ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ เพื่อป้องกันการเกิดความร้อนสะสมให้กับเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ให้เกิดความเสียหายในการทำงานได้ รวมถึงยังยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องจักรและอุปกรณ์เหล่านั้นได้เป็นอย่างดี แต่การที่พัดลมระบายความร้อนจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น การดูแลรักษาที่ดีเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อการใช้งานได้อย่างยาวนานมากขึ้นและป้องกันการขัดข้องระหว่างการทำงานของพัดลมกับเครื่องจักรหรือตู้ควบคุมนั่นเอง


การเลือกซื้อ DC Cooling Fan ที่มีคุณภาพก็เช่นกัน บริษัท เทค แอนด์ ไทม์ ซิสเต็ม จำกัด (Tect & Time System) นำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายพัดลม DC ยี่ห้อ SINWAN หลากหลายขนาด หลากหลายรูปทรง หลากหลายแรงดันไฟ ทั้งนี้หากลูกค้ามีสินค้าพัดลม DC เป็นยี่ห้ออื่น ๆ ทั่วไปก็สามารถแจ้งเทียบรุ่นได้เช่นกัน เพราะเราคือ ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายพัดลมระบายความร้อนในเครื่องจักร และยังมีกระบอกกรอง ไส้กรอง เครื่องมาร์คสายไฟ และเครื่องมาร์คปลอกสายไฟ แบบครบวงจรอีกด้วย

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรศัพท์ : 02-529-6344 (10 คู่สาย)
Hotline : 086-340-1848, 086-340-1849, 083-097-9338
E-Mail : sales@tech-time.co.th
LINE ID : @tech-time